วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Listen & Silent

ไม่เพิ่มเติมอะไรกับบทความนี้นะคะ เพราะภาพตอบแล้วทุกอย่าง


วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เก็บตกจาก การ์ตูนเล่มโปรด

บอกตามตรง ว่าจขบ. ยังชอบอ่านการ์ตูนอยู่ค่ะ แต่วันนี้จะยังไม่พูดถึงการ์ตูน แต่สืบเนื่องจากการ์ตูน ที่อ่านนั้น มีประโยคคำพูดที่น่าสนใจ จนอยากพูดถึง คือ

"ความดี กับความชั่ว ต้องสู้กันเรื่อยไป แสงสว่างกับความมืด ปะทะกันเพื่อรักษาดุลยภาพ"

น่าสนใจดีค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่มีวันแยกจากกันได้เลย แต่ทั้งในความสว่างและความมืดก็มีจุดด่างได้ด้วยกันทั้งนั้น อย่างกับท้องฟ้าที่มืดมิด กลับมีดวงดาวทอแสงสว่างไสว ไม่ได้มาสรุปว่าอะไรเป็นอะไรนะคะ แต่อยากให้นำไปใช้ เป็นมุมมองในการก้าวย่างค่ะ เพราะเราจะชื่นชมแสงแรกได้อย่างไร ถ้าฟ้าไม่เคยมืดลง จริงมั๊ยคะ

ขอบคุณที่ทดลองอ่านค่ะ
Aornpreeya I... ♥

ปอ ลอ ... ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงนะคะ แค่ลองทำรูปด้านบนให้ดู แล้วมานึกได้มามันคล้ายกับรูปด้านล่างเท่านั้น
 

ความสุข ง่านนิดเดียว

วันนี้เอาภาพที่เห็น share กันอยู่ในเฟส มาฝาก 20 วิธี มีความสุข เยอะนะนี่ นั่นแปลว่า ความสุขมันหาได้ง่าน นิสเดียว ^^ พอๆกับภาษาอังกฤษ (ตามคำกล่าวของคุณ แอนดรูว์ บิ๊กส์) และเนื่องจาก มีมากมายหลายวิธี ที่จำทำให้คุณมีความสุข เลยอยากมาวิเคราะห์ให้อ่านกันทีละข้อค่ะ

1.จดบันทึก สิ่งดีๆ ในแต่ละวัน - ข้อนี้สำหรับบ้างท่าน อาจไม่รู้ว่าควรจดอะไร เพราะสิ่งที่ตัวเองมองว่าดี อาจจะไม่ให้ความรู้สึกที่ดี เช่นเดียวกับอีกคน ฉะนั้นต้องมองให้ง่ายขึ้นกว่านั้นค่ะ ยกตัวอย่าง จขบ. ง่ายสุด คือส่วนตัวจะเป็นคนแพ้อากาศ พอตื่นมาตอนเช้าจะไอมาก วันไหนไอน้อย ก็ถือเป็นสิ่งดี วันไหน ตื่นมาไม่ไอเลย ยิ่งดีใหญ่ อะไรประมาณนี้ มองง่ายๆถึงจะเห็นสิ่งดีๆได้ง่ายขึ้น ลองเอาไปปรับใช้ตามแต่ละบุคคลดูนะคะ

2.คิดใหม่ - โห ... ยากนะเนี่ย เพราะชีวิตเรา มักจะอยู่กับสิ่งเดิมๆ สถานที่เดิมๆ พบเจอคนเดิมๆ การคิดใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ตอนนี้ จขบ. ยังคิดไม่ออก รอไปก่อนนะจ๊ะ 555 + +

3.ยิ้ม และ หัวเราะ ให้กับทุกสถานการณ์ - ออกแนวติงต๊องแล้วค่ะ ถ้าเป็นแบบนั้น แต่ยิ้ม เป็นการตอบรับ เชิงอัตลักษณ์ เป็นวิธีที่ดีของการแก้ปัญหาเบื้องต้น ฉะนั้นไม่ว่าเหตุการณ์ที่เผชิญอยู่จะเป็นเช่นไร ขอให้ยิ้มรับเอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะยิ้มออกมา หรือ ยิ้มอยู่ในใจ ก็น่าจะเป็นอีกวิธีการ ที่จะทำให้คุณผ่านเรื่องนั้นๆไปได้

4.อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ - เข้าใจว่า คนส่วนมาก คงมองไม่ค่อยออก ว่าสิ่งที่ตนทำอยู่นั้น เข้าข่ายนี้หรือเปล่า แต่เราจะมองเห็นชัดเมื่อเป็นผู้ดู ที่ไม่ได้ข้องเกี่ยวในเหตุการณ์โดยตรง บัดนั้นเหมือนดวงตาที่ 3 จะบังเกิด มองอะไรทะลุ ปรุโปร่ง เข้าใจ และ เหมือนจะพร้อมรับมือได้เกือบหมด เข้าใจดีค่ะ ว่าเรื่องเล็กใหญ่ ของคนไม่เท่ากัน คนนึงที่มองว่าเล็ก อาจจะใหญ่มากมาย ในสายตาของอีกคน ฉะนั้นเราต้องบีบให้มันดูว่าเล็กให้ได้ซะก่อน ส่วนตัวแนะนำให้หาคำปรึกษาค่ะ ลองปรึกษากับคนที่เขาเคยผ่านเรื่องราวแบบนี้มาแล้ว เราจะได้มุมมองที่ เปิดกว้างมากขึ้น เรื่องราวที่เคยใหญ่ สำหรัพวกเขาในวันนั้น วันนี้เชื่อว่ามันคงเล็กลง พอที่จะให้คุณที่กำลังเผชิญปัญหานั้นๆอยู่ มองเห็นว่ามันอยู่ภายในมือของคุณเอง

5.อยู่กับอะไรที่ชอบ - อันนี้ง่ายเลย ชอบอะไร ก็อันนั้นแหละค่ะ ชอบฟังเพลง ก็ฟัง ดูหนัง ก็ดู หรือ อยากจะร้อง karaoke ให้สุดเสียงก็ตามใจ แต่แนะนำว่า พยามหาสิ่งที่ชอบ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียวนะคะ เพราะมันจะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น

6.อย่ารับปรับทุกข์ ทุกเรื่อง - ประเด็นนี้น่าคิดนะคะ จขบ. เคยเป็นแบบนั้น พยามทำตัวเหมือน ศิลาณี แก้ปัญหารัก โชคดี ที่ไม่ทำตัวเป็นหมอ นพพร ด้วย ( ท่านใดที่ไม่เก็ตมุข กรุณาข้ามไป ) การเป็นที่ปรึกษา ก็เป็นสิ่งที่ดีนะคะ ทำให้มุมมองของเราเปิดกว้างมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้จิตใจหดหู่ลงไปด้วย อาจจะไม่รู้สึก แต่มันมีผลประทบแน่นอนค่ะ ที่ปรึกษาบางคน ยังเอาไปคิดต่อจนเตลิด ฉะนั้นเลือกช่วย เลือกฟังค่ะ เอาแต่เรื่องที่เราเชื่อว่าจะช่วยแนะนำเขาได้จริงๆ จะดีทั้งกับเขา และเรามากกว่า

7.จัดของให้เป็นระเบียบ - ข้อนี้ สำหรับท่านที่เป้นคนมีระเบียบ จัดข้าวของเข้าที่เข้าทางอยู่แล้ว กรุณาข้ามไปนะคะ แต่สำหรับหลายๆท่าน ที่ไม่เป็นเช่นนั้น เช่นเดียวกับ จขบ. จะถือว่าเป็นการใช้พลังงานแลกมาซึ่งความสุขโดยแท้ เพราะข้าวของมากมาย ที่วางระเกาะระกะ มาเป็นแรมเดือน จะให้มาเรียบร้อยในวันเดียวนั้น หมดแรงข้าวหมูตุ๋นกันพอดี (ใครท่านอย่างอื่น กรุณาเปลี่ยนเมนูเอานะคะ) แต่ลองดูค่ะ จัดให้เรียบร้อยแล้วเช็ดถูให้สะอาด อย่างน้อยแค่ในห้องของตัวเองก็ยังดี แล้วจะรู้สึกว่ารอบข้าง มันน่าอยู่มากขึ้นจริงๆ และคุณก็จะหลับไปพร้อมกับความเหนื่อย

8.ออกไปหาเพื่อนเก่า - ส่วนตัว ไม่สะดวก กับข้อนี้ เพราะย้ายถิ่นฐานมาไกล เพื่อนเก่าหายไปหมด แต่แนะนำว่า กรุณาเลือกเพื่อนเก่าที่คุณจะออกไปพบ ให้เป็นคนที่มีความทรงจำดีๆด้วยกันมากที่สุด แล้วเลือกคุยแต่อดีตที่ชวนสุข คุณก็จะได้รอยยิ้ม ติดหน้า กลับมาบ้านค่ะ

9.อย่าคิดไปเอง - เป็นอีกเรื่องยากที่ทำกันไม่ค่อยได้ ถ้าทำไม่ได้จริงๆ แนะนำว่าให้คิด 2 ทาง แทนค่ะ คือคิดมากกว่าปกตินิดหน่อย ไม่ว่าจะติดต่อ ในแง่บวก หรือ ลบ คิดเพื่อไว้ซะหน่อย แล้วเมื่อความจริงมันเกิดขึ้น ไม่ว่าด้านใด คุณก็จะพร้อมรับมือกับมันค่ะ

10.นั่งสมาธิ - เอ่อ แบบว่า จขบ. ไม่สันทัดเลยค่ะ เรื่องนี้ แนะนำให้หาใน อากู๋ เพิ่มเติมเอาเองนะคะ เพราะเชื่อว่า การนั่งสมาธิ ถ้าได้รับการแนะนำที่ดี จะทำให้ใจของคุณพบกับความสุขแบบง่ายๆค่ะ

วันนี้ 10 ข้อก่อนนะคะ พิมพ์เยอะ ก็ต้องคิดเยอะตามไป ชักจะไม่ง่ายซะแล้วหละค่ะ ^^ ♥

ขอบคุณที่ทดลองอ่านค่ะ
Aornpreeya I... ♥

นาฬิกา อดีต และ ปัจจุบัน


มันไม่ง่ายเลยใช่มั๊ยคะ ที่จะไม่หวลนึกถึงอดีต ไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า อดีต ก็คือความทรงจำ ที่มีค่าต่อการหวลนึกถึงทั้งนั้น หากแต่บางคน ยังเฝ้ารออดีต ยังร่ำร้องหาอดีต หรือแม้แต่ จมอยู่กับอดีต

ถ้าชีวิตคนเฉลี่ยอยู่ได้แค่ 20000 กว่าวัน วันนี้ชีวิตของคุณผ่านไปแล้วกี่วันคะ แล้วถ้าวันพรุ่งนี้ของคุณไม่มีอีกแล้วล่ะ ร่างกายของคนอ่อนแอนัก โดนเข็มเล็กๆจิ้มนิดเดียวก็เลือดออก เราจึงมีความฉลาดที่จะทำให้ร่างกายของเรา รอดพ้นจากสิ่งอันตราย แต่การดับสูญ เป็น "สัจจะ แห่ง ธรรมชาติ" จึงไม่มีผู้ใดอยู่ค้ำฟ้า ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

การอยู่กับปัจจุบัน ในความเห็นส่วนตัว คือการรู้ตื่น รู้เดิน รู้กิน รู้อยู่ รู้ รู้ และ รู้ หมายถึงเราต้องรู้จักตัวเอง และรู้ตัวเองเสมอว่ากำลังทำอะไร กำลังพูดอะไร การรู้ ทำให้เรามีสติ และในทางธรรม สติ นั้นทำให้เกิดปัญญา

ขอบคุณที่ทดลองอ่านค่ะ
Aornpreeya I... ♥

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กิน ... ยกที่ 1

เรื่อง กิน จริงๆแล้วเป็นเรื่องง่ายๆที่ต้องเจอกัน วันละ 1 มื้อเป็นอย่างน้อย ซึ่งอีกหลายท่าน อาจจะเกิน 3 มื้อ จากปกติ ก็เป็นได้ ไม่ว่าจะ 1 มื้อ หรือ 5 - 6 มื้อ เรื่องกินเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่ชวนให้ปวดกบาลใด้เสมอ ไม่ว่ากลางวันจะกินอะไร ทำงานที่เดิม กินร้านเเดิม สั่งอาหารแบบเดิมๆ พอตกมื้อเย็น เหมือนว่าจะดีขึ้นหน่อย แต่หลายท่านอาจจะต้องไปสู้รบตบมือ กับคุณแฟน ว่าเย็นนี้จะพาไปทานอะไร อีกเช่นเดิม น่าเบื่อเนอะ แต่วันนี้ไม่ได้มาแนะนำที่กิน แค่อยากให้ลองคิดง่ายๆกับประโยคคำถามที่ว่า ทานอะไรหรือยังคะ วันนี้กินอะไรมา หรืออีกหลากหลายคำถามประมาณนี้ เป็นคำถามที่คนนิยมใช้กันมากที่สุดคำถามหนึ่ง เพราะเนื้อหาออกแนวห่วงใย ใส่ใจ ไม่ว่าความจริง จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ นอกเหนือจากทักทาย สวัสดี กันตามปกติ การต่อท้ายด้วยคำถามว่า ทานข้าวกลางวันหรือยังคะ มันต่อยอดประโยค หรือต่อยอดความสัมพันธ์ไปได้อีกมาก ยกตัวอย่างเช่น

น้องเอ - สวัสดีค่ะพี่ ทานอะไรหรือยังคะ (ประโยคตามแต่สถานะการณ์)
พี่บี - ยังเลยครับ น้องเอ ทานหรือยัง
น้องเอ - กำลังจะไปค่ะ
พี่บี - ได้โอกาส (แนะนำให้พี่บี พูดในใจ)

ยกตัวอย่างไร้สาระไปนิด แต่จริงๆแล้ว มันก็ประมาณนี้ค่ะ ... ไม่ว่าคุณจะใช้กับคนคุ้นเคย หรือไม่คุ้นเคย ก็ยังดูดี มีปฏิสัมพันธ์ทางวาจา มากกว่าแค่ทักทาย แหละน้า ... ♥

(มีโอกาส จะมาแนะนำร้านอร่อยๆนะจ๊ะ)

ขอบคุณที่ทดลองอ่านนะคะ
Aornpreeya I... ♥

ในหลวง = In heart

จำประโยคนี้ได้มั๊ยคะ ที่ชาวต่างชาติถามคนขับรถตุ๊กๆ ว่ารูปที่ติดอยู่บนรถของเขา คือใคร คนขับก็เก่งภาษาอังกฤษมาก ตอบว่า ในหลวง ฝรั่งก็งงๆ คนขับรถตุ๊กๆ เลยบอกไปว่า in heart ส่วนตัวแอบงง กับความหมาย แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับ พ่ออยู่ในหัวใจของเรา ของคนไทย พอเห็นโฆษณานี้แล้ว นึกถึงอีกรายการนึง ซึ่งเก่ามากแล้วจาก BBC ชื่อ Thailand Soul of the Nation ซึ่งได้มา สัมภาษณ์ในหลวง และ ราชินี รวมถึงตามไปเก็บภาพพระราชกรณียกิจต่างๆของทั้ง 2 พระองค์ ดูแล้วรู้สึกอิ่มใจ รู้สึกใกล้ชิดทั้งสองพระองค์ขึ้นอีก และ รู้สึกดีใจ ที่เกิดเป็นคนไทยเหลือเกิน

... ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ...

เครดิต จาก Youtube โดยคุณ ...
Published on May 10, 2012 by Chitpong Wuttanan

ท่านใดจำโฆษณา นี้ไม่ได้ ลองกลับไปดูกันก่อนค่ะ
โฆษณา ฉลองครองราชครบ 60 ปี ( ในหลวง in your heart )


<<< Long Live The King >>>

ประเดิม เบิกเนตร

สวัสดีค่ะ เริ่มชื่อก็ดูออกแนวๆไสยศาสตร์ซะแล้ว ไม่ใช่นะคะ ออกตัวไว้ก่อน เพราะส่วนตัว ไม่เชื่อ ไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญ และไม่ลบหลู่ เรื่องแบบนี้ค่ะ บล็อกนี้สืบเนื่องมาจากหลายอย่าง แต่ประเด็นสำคัญคือ รู้สึกว่าคนสมัยนี้มองอะไรแปลกๆ อย่างในเฟสบุค ที่เห็นคนมองอะไรต่างไปจากตัวเองอยู่หลายครั้ง เอ๊ะ !!! หรือเราเองที่ไม่ปกติหว่า แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะบล็อกนี้เป็นบล็อกเอาใจตัวเอง ส่วนใครจะคิดเหมือนหรือต่างจากเข้าของบล็อกยังไงไม่ใช่เรื่องใหญ่ ขอแค่ให้คุณได้คิดด้วยตัวเอง อย่าให้เขาหรือใคร มานำพาความคิดของคุณไป ก็พอแล้ว

ขอบคุณที่ทดลองอ่านค่ะ
Aornpreeya I...♥